ทางออกของสาว “คางสั้น”

รูปหน้าเรียว ย่อมเป็นที่ต้องการของสาวๆ ในสมัยนี้ บางคนแม้จะผอมบ้าง อ้วนบ้าง แต่ก็มีรูปหน้าเรียวติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด แต่กับหลายคนนั้นกลับมีปัญหา หน้ากว้าง คางสั้น หรือสารพัดปัญหาอื่นๆ ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด จึงทำให้ไม่สามารถมีหน้าเรียวได้ ไม่ว่าจะอยากแค่ไหนก็ตาม… วันนี้เราจึงมีทางออกสาวที่มีปัญหาคางสั้นแต่อยากหน้าเรียวมาบอกกัน

การเพิ่มความยาวให้กับคางของเรานั้นจะมี 2 วิธีที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในตอนนี้ คือ


เติมคางด้วยฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่ไม่เจ็บตัวมาก ไม่ต้องรักษาตัวนาน แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเช่นกัน ทำได้โดยการฉีดสารฟิลเลอร์เติมเข้าไปในชั้นผิวช่วงคาง จากนั้นแพทย์จะบีบๆ หรือที่เรียกว่าปั้นให้เข้ารูป ในเรื่องของการแพ้ เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่สกัดมาเพื่อเติมเต็มผิวจึงมีความเสี่ยงน้อยมาก

การรักษาหลังจากการเติมฟิลเลอร์นั้นเพียงไม่ยาก ดังนี้

  • งดการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมที่ต้องเสียเหงื่อมากๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • งดการนวดหน้าหรือสัมผัสบริเวณคางที่ทำการเติมฟิลเลอร์มาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • ดื่มน้ำเยอะๆ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำบ่อยๆ จะเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิลและฟิลเลอร์ทำให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น

**การฉีดฟิลเลอร์หนึ่งครั้ง สามารถอยู่ได้นาน 6 เดือน – 2 ปี และสามารถเติมเพิ่มได้หากรู้สึกว่าฟิลเลอร์เริ่มสลายตัวแล้ว

เสริมคางด้วยซิลิโคน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีและน่าสนใจมากๆ นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและให้ผลเป็นระยะเวลานานกว่าฟิลเลอร์ โดยแพทย์จะนำซิลิโคนแท่งมาตัดแต่งให้ได้ตามรูปคางที่ต้องการ จากนั้นจึงผ่าตัดเสริมเข้าไป

ตำแหน่งที่ผ่าตัดเพื่อเสริมคางจะมีทั้งหมด 2 ตำแหน่ง คือ 

  1. ภายนอกปาก – การผ่าแบบนี้ไม่เป็นที่นิยมนัก เพราะอาจทำให้มีปัญหาเรื่องแผลเป็นตามมาภายหลังได้
  2. ภายในปาก – กรผ่าตัดแบบนี้จะเป็นการซ่อนแผลไว้ในปากเป็นที่นิยมมาก ถึงแม้ว่าจะทำให้มีปัญหาในการทานอาหารและทำความสะอาดช่องปากในช่วงแรกก็ตาม


การผ่าตัดเสริมซิลิโคนนั้น ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่เกิน 1 ชั่วโมง ต้องมาพบแพทย์หลังจากวันที่เข้ารับการผ่าตัด 1 สัปดาห์ และใช้เวลารักษาตัวประมาณ 10 วัน จะดีที่สุด 


ในช่วงของการรักษาตัวนั้น มีข้อปฎิบัติที่พึงกระทำ ดังนี้

  • นอนหนุนหมอนยกตัวให้สูงในช่วง 2-3 วันแรก
  • งดการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ก่อให้เกินการกระทบกระเทือน เป็นระยะเวลา 1-2 สัปดาห์
  • หลังการเสริมคางต้องระวังการนั่งเอามือหรือเข่าขึ้นมาเท้าคาง เพราะอาจทำให้มีปัญหาได้
  • ควรระมัดระวังไม่ให้โดนแผลระหว่างแปรงฟัน
  • ควรไปพบแพทย์ตามเวลานัดอย่างสม่ำเสมอ


** ควรทำความเข้าใจก่อนทำการเสริมคางว่า จริงๆ แล้วตำแหน่งที่ถูกเสริมเข้าไปนั้นจะอยู่ต่อกับกระดูกกรามด้านหน้า จึงทำให้ดูยื่นไปข้างหน้ามากกว่าลงด้านล่าง

ทั้งนี้ การทำศัลยกรรมไม่ว่าด้วยกรรมวิธีใดก็ตาม ควรศึกษาอย่างละเอียด และเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญควรเลือกสถานที่ทำที่ไว้ใจได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง