สุขภาพ

ผมเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของคนเรา โดยมีการเจริญเติบโตคล้ายต้นไม้ คือ จะยาวออกมาได้เรื่อยๆ โดยโครงสร้างของเส้นผมนั้นถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน

1. แกนกลาง (Medulla)    และ    2.ชั้นเปลือกนอก (Cortex)   เส้นผมของแต่ละคนจะดูสวยงามแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับการเรียงตัวของเซลล์ผมชั้นเปลือกนอก เมื่อผ่านการใช้สารเคมีเผชิญกับมลภาวะหรือแม้แต่บำรุงผมบ่อยและถี่เกินไป เซลล์ผมก็จะเสื่อมสภาพ เรียงตัวไม่เป็นระเบียบจนทำให้ผมขาดหลุดร่วงและชี้ฟูได้ง่ายๆ

“การดูแลผมนั้นไม่ยาก เพียงแค่ทำความเข้าใจกับวิธีต่างๆ หลีกเลี่ยงในสิ่งที่ควรเลี่ยง ทำในสิ่งที่ควรทำ เพียงเท่านี้ผมสุขภาพดีก็จะอยู่กับเราไปอีกนาน”
วิธีการดูแลผมที่สามารถทำเองได้ทุกๆ วันแบ่งออกเป็นข้อได้ ดังนี้

1. รู้จักผม รู้จักตัวเอง
    ก่อนการดูแลผมในขั้นตอนอื่นๆ สิ่งที่เราควรจะรู้คือ ผมเราเป็นแบบไหน เส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ ตรงหรือหยิก เสียอย่างไร เพื่อจะได้ดูแลได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น และไม่เป็นการทำร้ายผมด้วยความหวังดีจากตัวเราเอง การรู้จักผมนี้เปรียบเหมือนการตรวจร่างกายเวลาไปหาหมอ เราต้องรู้จักโรคประจำตัวของตัวเอง และคอยสังเกตอาการป่วยที่เป็น เพื่อจะได้ทำการรักษาได้อย่างตรงจุดนั่นเอง

2. เลือกอาหารผม ให้เหมาะสม
    ผมก็ต้องการอาหารเหมือนคนเรา ดังนั้นเราจึงต้องรู้จักเลือกทานอาหารที่เหมาะสำหรับการดูแลผมเพื่อที่อาหารที่ทานจะได้เข้าไปดูแลผมได้อย่างตรงจุด โดยอาหารที่เหมาะสำหรับผมนั้นคงหนีไม่พ้นอาหารจำพวกโปรตีน ซึ่งหาได้จากเนื้อ นม ไข่ และถั่ว นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยบำรุงผมได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็คือวิตามิน บี1 จากข้าวกล้องนั่นเอง

ความจริงแล้วผมยังต้องการสารอาหารอีกทางหนึ่งซึ่งไม่ใช่แค่ที่เราทานเท่านั้น นั่นคือทางการทำทรีตเมนต์ผมนั่นเอง หลายๆ ท่านอาจคิดว่า”ยิ่งดูแลมากยิ่งสุขภาพดี” หรือ “สระผมปกติก็เพียงพอแล้ว” ไม่ว่าจะทางไหนล้วนเป็นสิ่งที่ผิดทั้งสิ้น เพราะการดูแลผมนั้นต้องมีความพอดี มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ควร การที่เราประโคมทุกทรีตเมนต์ให้กับผมทุกๆ วันถึงแม้เราจะไม่เหนื่อยแต่เส้นผมเหนื่อย หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพคงต้องเปรียบกับการพฤติกรรมการทานของคนเรา หากเราทานอาหารมากๆ เราก็คงอิ่ม เมื่ออิ่มแต่ไม่หยุดทานก็จะเริ่มจุก เริ่มอึดอัด สุดท้ายแล้วถ้ายังไม่หยุดทานอีกร่างกายคงรับไม่ไหว ผมก็เช่นกันซ้ำร้ายสารเคมียังถูกทิ้งตกค้างไว้ในเส้นผมอีกต่างหาก ในทางเดียวกันการให้อาหารผมที่น้อยเกินไปก็คงเหมือนคนที่ทานไม่อิ่มจนร่างกายขาดสารอาหาร ดังนั้น หากจะดูแลผมด้วยทรีตเมนต์หรืออาหารผมชนิดใดก็ตาม ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผมและ “ไม่บ่อยจนเกินไป” การทำทรีตเมนต์สองอาทิตย์ครั้งเป็นอย่างมากก็เพียงพอต่อความต้องการของผมแล้ว

3. สระผมบ่อย… สะอาด แต่เสียสุขภาพ
    การสระผมที่บ่อยจนเกินความพอดีไม่ได้ช่วยให้ผมสะอาดและดีอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด เพราะการสระผมที่บ่อยเกินไปจะทำให้ผมแห้งเสียได้ ดังนั้นทางที่ดีควรสระผมอย่างมากที่สุด 2 วันครั้งเท่านั้น แต่หากเดิมเป็นคนผมแห้งมาก และยังไม่ค่อยมันเมื่อถึงวันที่จะสระ อาจเยืดเวลาเป็น 3 วันได้ตามความเหมาะสม

Tips: การสระผมที่ดีควรสระด้วยน้ำเย็นเท่านั้น เพราะการสระผมด้วยน้ำอุ่นบ่อยๆ จะทำให้ผมแห้งเสียไร้น้ำหนัก และเพื่อสุขภาพผมที่ดี ควรเลือกแชมพูและครีมนวดผมที่เหมาะกับสภาพผมและหนังศีรษะ เพื่อป้องกันรังแคและฟื้นฟูปัญหาผมเสียที่มีได้เป็นอย่างดี

4. เล็มผมบ้าง เพื่อผมยาวอย่างมีคุณภาพ
    การเล็มปลายผมนั้นเป็นสิ่งที่สมควรทำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังไว้ผมยาวหรืออยากให้ผมมีสุขภาพที่ดี เพราะผมแต่ละเส้นมีอายุขัย ซึ่งสามารถหมดไปได้ตามสิ่งที่ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ แสงแดด หรือสารเคมีก็ตาม การที่ผมแห้งเสียและชี้ฟูยังอยู่บนหัวของเรานั้นจะทำให้เราจัดทรงยาก ที่แย่ไปกว่านั้น คือ เมื่อเรามีผมที่เสียเป็นจำนวนมาก มีโอกาสทำให้คุณภาพเส้นผมที่ดีหรือกำลังเกิดขึ้นใหม่แย่ลงไปด้วย เพราะสารอาหารที่จะนำไปเลี้ยงผม ต้องถูกแบ่งออกเป็นจำนวนมากเพื่อไปช่วยรักษาซ่อมแซมผมที่เสียอยู่ในขณะนั้น

Tips: การเล็มผมควรทำอย่างน้อยทุก 4-6 อาทิตย์
5. ผมเจ็บไม่ได้ แต่ถนอมผมหน่อย
    เส้นผมไม่มีความรู้สึก แต่ไม่ใช่ว่าเราจะทำอะไรกับเส้นผมก็ได้ ทุกครั้งที่ใช้สารเคมีจัดแต่งทรงผมหรือปล่อยให้ผมผ่านกระบวนการทางเคมี เช่นการยืด ดัด ย้อมสี หากผมมีชีวิตอาจจะตะโกนร้องเพราะแสบอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากเลี่ยงการใช้สารเคมีกับผมในชีวิตประจำวันไม่ได้ อย่างน้อยก็ควรเว้นระยะห่างในการใช้ออกไปบ้าง การแต่งผมอาจไม่ต้องแต่งทุกวัน บางวันแต่งทรง บางวันพักผม ในวันที่พักผมอาจไปทำทรีตเมนต์บ้างหรือหมักผมอย่างง่ายๆ อยู่บ้านด้วยสูตรธรรมชาติอย่างไข่ไก่ก็ได้  

6. น้ำเปล่า ช่วยได้
    “น้ำ เป็นยาวิเศษที่รักษาได้ทุกโรค” เป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เพราะการดื่มน้ำเยอะๆ ไม่เพียงแค่ช่วยลดความผิดปกติและบำรุงสุขภาพร่างกายเท่านั้น สุขภาพผมก็เช่นกันการดื่มน้ำจะทำให้ผมชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ไม่แห้งเสียแบบที่ควนจะเป็น

สุดท้ายนี้ อยากให้ทุกคนหันมาดูแลผมให้มากๆ เพราะผมก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกคนดูดีขึ้นได้เช่นกัน ไม่ว่าจุดเริ่มต้นของแต่ละคนจะมีสภาพผมอย่างไร แต่ปลายทางก็สามารถทำให้ผมสุขภาพดีได้ด้วยตัวของเราเอง