สารบัญ

ต้นขาใหญ่ ไม่เรียบเนียน จัดการด้วย 7 วิธีลดเซลลูไลท์ ลดต้นขาเล็กลง

ต้นขาใหญ่ ผิวไม่เรียบเนียน ที่เกิดจากเซลลูไลท์จำนวนมากสะสมอยู่ที่บริเวณต้นขา คงทำให้ใครหลายคนเกิดความกังวลใจอย่างมาก และต้องการลดเซลลูไลท์นี้ให้ได้เร็วที่สุด โดยการลดเซลลูไลท์นั้นมีหลายวิธีมาก ๆ วันนี้เราจึงรวบรวม วิธีลดเซลลูไลท์ ลดต้นขา เผยผิวเรียบเนียน เห็นผลลัพธ์ดีที่สุดมาฝากกัน   

โดยก่อนอื่นเราขอพาไปทำความรู้จักกับเซลลูไลท์บริเวณต้นขากัน ก่อนที่จะลดเซลลูไลท์และลดต้นขากัน ว่าแตกต่างกับเซลลูไลท์ทั่วไปหรือไม่ 

เซลลูไลท์ต้นขา คืออะไร

เซลลูไลท์เกิดจากไขมันใต้ผิวหนังดันเนื้อเยื่อที่ติดกันขึ้นมา เป็นสาเหตุที่ทำให้มีลักษณะคล้ายเปลือกส้มหรือผิวมะกรูด เซลลูไลท์มีหลายระดับแตกต่างกันไป ตั้งแต่แบบที่มองไม่เห็นไปจนถึงชนิดรุนแรง ที่สามารถขยายไปบริเวณอื่นได้ โดยเซลลูไลท์ต้นขามักเกิดจากการสะสมของไขมัน และการไหลเวียนไม่ดี อาจมาพร้อมกับการคั่งของน้ำ ทำให้เกิดเซลลูไลท์ หย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียน และไม่กระชับ ซึ่งการลดเซลลูไลท์บริเวณต้นขาหรือการลดต้นขาจะค่อนข้างลดยาก หากไม่อยากให้ต้นขาใหญ่ ไม่เรียบเนียนจนแก้ยาก ควรรีบลดเซลลูไลท์ที่บริเวณต้นขาให้เร็วที่สุด วันนี้เราจึงมี 7 วิธี ลดเซลลูไลท์ ลดต้นขา เห็นผลลัพธ์ดีที่สุด มาฝากกัน

7 วิธี ลดเซลลูไลท์ ลดต้นขา เผยผิวเรียบเนียน เห็นผลลัพธ์ดีที่สุด

1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ (Exercise)

การออกกำลังกายหลัก ๆ แล้วจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย จึงช่วยทำให้สามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน และที่สำคัญเมื่อไขมันส่วนเกินลดลง ก็จะสามารถลดเซลลูไลท์และลดต้นขาให้เรียบเนียนได้ โดยเริ่มแรกเราสามารถเลือกออกกำลังกายได้ตามที่เราชอบ เพื่อให้เราทำได้อย่างสม่ำเสมอ หลังจากนั้นให้ออกกำลังกายที่เน้นการเผาผลาญไขมันสลับกับการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งเพื่อลดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ โดยควรออกกำลังกายครั้งละ 30 – 40 นาทีขึ้นไป อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ก็จะเห็นผลลัพธ์การลดเซลลูไลท์และลดต้นขาได้ดี ซึ่งสำหรับคนที่เริ่มออกกำลังกาย เราขอแนะนำให้เริ่มจากการเดิน วิ่ง หรือโยคะที่จะช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้น โดยเฉพาะท่าโยะคะที่มีการบิดตัว ซึ่งวันนี้เรานำท่าโยคะมาให้ลองทำกันดูด้วย

• ท่า Lunge เป็นท่าออกกำลังกายที่ให้ประโยชน์คล้าย ๆ กับท่าสควอท (Squat) โดยเน้นกระชับกล้ามเนื้อบริเวณส่วนล่างลำตัวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อต้นขาด้านข้าง กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง สะโพก และก้น ช่วยให้สามารถลดเซลลูไลท์และลดต้นขา ช่วยกระชับต้นขาและสะโพกได้ ซึ่งหากออกกำลังกายท่านี้เป็นประจำทุกวันก็จะช่วยให้ได้ต้นขาสวย ๆ ก้นกระชับแน่นอน โดยท่านี้เริ่มด้วยการยืนตัวตรง ปลายเท้าแยกจากกันเล็กน้อย ก้าวขาข้างหนึ่งออกไปด้านหน้าระยะ 2 ก้าว แล้วย่อเข่าลง ให้หัวเข่าทำมุม 90 องศา หลังตรงค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จากนั้นกลับมาอยู่ในท่าเตรียมและทำข้างละ 8 – 15 ครั้ง 
• ท่า Glute Bridge เป็นท่าออกกำลังกายในการบริหารกล้ามเนื้อก้น ช่วยให้กระชับสะโพก ลดเซลลูไลท์ และลดต้นขาได้อย่างดี โดยท่านี้เริ่มด้วยการนอนราบกับพื้นชันเข่าขึ้น 2 ข้าง ยกสะโพกขึ้นแล้ววางลง นับเป็น 1 ครั้ง ตอนที่สะโพกยกขึ้นขาและลำตัวจะทำมุมกันเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยทำ 15 ครั้ง ต่อ 1 เซ็ต ทำให้ครบ 3 เซ็ต จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
• ท่า Squat Jump เป็น Squat ที่เพิ่มระดับความยากมากขึ้นไปอีกขั้น โดยท่านี้จะใช้แรงทั้งตัวจึงสามารถช่วยลดเซลลูไลท์ ลดต้นขา กระชับก้นได้อย่างดี โดยท่าเตรียมจะเหมือนกับการทำ Squat เลย จากนั้นจะกระโดดเหยียดขาตรงแกว่งแขนไปข้าง ๆ แล้วกลับมาท่างอเข่า กระโดดต่อ โดยทำให้ครบ 15 ครั้งต่อ 1 เซ็ต ทั้งหมดวันละ 3 เซ็ต
• ท่า Lateral Lunge เป็นท่าออกกำลังกายกล้ามเนื้อต้นขาและสะโพก ช่วยให้บริเวณต้นขาดูเฟิร์มกระชับขึ้น ลดต้นขา และลดเซลลูไลท์ได้ รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับขาทั้งสองข้างโดยไม่ต้องออกแรงมาก โดยท่านี้เริ่มด้วยการยืนตรง ปลายเท้าชิด มือตั้งอยู่ระหว่างหน้าอก แล้วค่อย ๆ แยกขาทั้งสองข้างออก โดยเริ่มต้นที่การเหยียดขาขวาให้เหยียดตรง ในขณะที่ขาซ้ายงอเข่า ระหว่างทำควรยืดตัวให้หลังตรง ยืดตัวขึ้นนำขาที่เหยียดตรงกลับเข้าที่ และทำสลับอีกข้างไปมา ทำทั้งหมด 10 ครั้ง จำนวน 3 เซต และเปลี่ยนมาทำอีกข้าง

2. ควบคุมอาหาร (Food)

ฃการควบคุมอาหารให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเราควรจะควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทาน โดยเน้นการลดไขมันอิ่มตัวและลดน้ำตาล ซึ่งเป็นสาเหตุของการสะสมไขมันส่วนเกินจนกลายเป็นเซลลูไลท์ และทำให้ต้ขาใหญ่ในที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วผู้ชายไม่ควรมีไขมันอิ่มตัวเกิน 30 กรัมต่อวัน และผู้หญิงควรมีไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 20 กรัมต่อวัน ไขมันอิ่มตัวพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น ไขมันของเนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป เนย ชีส และครีม ซึ่งแม้การควบคุมอาหารจะไม่สามารถลดเซลลูไลท์หรือลดต้นขาที่ใหญ่ให้มีความเล็กลงได้โดยตรง แต่การควบคุมอาหารจะทำให้เราลดโอกาสที่จะเกิดเซลลูไลท์ได้มากขึ้น ทำให้ต้นขาไม่ใหญ่ไปมากกว่านี้ และช่วยส่งเสริมให้การลดเซลลูไลท์และลดต้นขาให้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น

3. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ (Water)

การดื่มน้ำจะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ สามารถช่วยขับสารพิษที่ติดอยู่ในเนื้อเยื่อในรูปแบบของไขมันส่วนเกิน สามารถลดเซลลูไลท์ออกไปจากต้นขา จึงช่วยลดต้นขาใหญ่ได้ด้วย แต่ควรเป็นการดื่มน้ำเปล่า เพราะหากเราดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  จะทำให้ร่างกายเสียสมดุล ทำให้เกิดสารพิษที่ทำให้ร่างกายขับออกมาได้ยากมากขึ้น นอกจากนี้ การดื่มน้ำเปล่าเข้าไปจะไปช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้ลดลง ทำให้ร่างกายจะต้องดึงไขมันที่สะสมอยู่ตามร่างกายมาเผาผลาญเป็นพลังงานมากขึ้น เพื่อให้อุณหภูมิกลับมาคงที่ ซึ่งการเผาผลาญไขมันนี้เองจะช่วยทำให้นสามารถลดเซลลูไลท์และลดต้นขาได้ โดยการดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น 23 กิโลแคลอรี ได้เลยทันที ดังนั้น เราควรดื่มน้ำให้มากเพียงพอกับความต่อความต้องการของร่างกายให้ได้ 8 – 10 แก้วสำหรับผู้หญิง และ 10 – 12 แก้วสำหรับผู้ชาย จะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด 

4. การผ่าตัดเซลลูไลท์ (Cellulite Surgery)

ถ้าเรามีเซลูไลท์จำนวนมากจนต้นขาใหญ่มาก ๆ การผ่าตัดอาจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดเซลลูไลท์และลดต้นขาลงได้ โดยการผ่้าตัดนั้นจะเป็นการผ่าตัดพังผืดที่ยึดระหว่างเซลล์ไขมัน และฉีดไขมันเข้าไปใหม่ พร้อมกับป้องกันการเกิดพังผืดระหว่างไขมัน โดยการรักษาเซลลูไล์นั้นไม่ใช่การดูดไขมันปกติ ที่จะทำการดูดเฉพาะไขมันส่วนนั้น ๆ โดยไม่ตัดพังผืดที่ยึดระหว่างเซลลูไลท์ออก และการผ่าตัดเซลลูไลท์ไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการรักษาเซลลูไลท์ที่ได้ผลถาวร แต่อาจต้องมีการผ่าตัด 2 – 3 ครั้ง และมีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ดังนี้

• ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำยาสะอาดในขวด เช็ดคราบเลือด และสิ่งสกปรกออก
• รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่น แดง คลื่นไส้ – อาเจียน แน่นหน้าอก ให้หยุดรับประทานทันที และรีบมาพบแพทย์
• หลังการผ่าตัด 5 วัน ให้มาตัดไหม
• หลังทำผ่าตัด 2 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน ให้มาพบแพทย์ เพื่อตรวจอาการอีกครั้ง
• พันผ้าบริเวณที่ดูดไขมัน ประมาณ 4 – 6 อาทิตย์
• แผลผ่าตัดจะเห็นชัดในช่วงแรก และจะดีขึ้นตามลำดับภายใน 1 – 2 ปี
• ควรใส่ชุดชั้นในรัดรูปประมาณ 1 เดือน เพื่อให้ได้รูปร่างที่ดีและลดบวม
• ถ้าคันตัวสามารถทาแป้งแก้คันได้ แต่ห้ามทาที่แผล
• รัดสเตย์ให้แน่น และอย่าให้มีรอยย่นบนสเตย์
• แพทย์จะนัดตัดไหมเมื่อครบ 7 วัน

5. การดูดไขมัน (Liposuction)

เป็นการใช้อุปกรณ์พิเศษขนาดเล็ก สอดใต้ชั้นผิวเพื่อทำให้ไขมันละลายหรือแตกตัว ก่อนจะดูดไขมันสะสมออกมา ซึ่งการดูดไขมันนั้นจะช่วยทำให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม เข้ารูป ลดไขมันส่วนเกินตามจุดต่าง ๆ ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยปกติมักได้ผลดีในการลดสัดส่วน และการลดไขมันเฉพาะจุดอย่างการลดต้นขา แต่ได้ผลไม่มากนักในการแก้ปัญหาผิวที่มีเซลลูไลท์ ทำให้วิธีนี้ไม่สามารถช่วยให้เซลลูไลท์หายไปได้ชัดเจนเหมือนวิธีอื่น ๆ

6. ขัดผิวด้วยกากกาแฟ (Scrub)

กากกาแฟสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกมาได้ เนื่องจากคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟมีสารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถขจัดสารพิษให้กับผิวหนังชั้นนอก พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวชั้นใน ทำให้ผิวดูสดใสเปล่งปลั่งสุขภาพดี นอกจากนี้ คาเฟอีนยังช่วยกระตุ้นไขมันใต้ชั้นผิวให้เกิดการแตกตัว และมีการจัดเก็บไขมันใต้ชั้นผิวหนังให้มีความเป็นระเบียบ ลดโอกาสที่จะทำให้ผิวเกิดเซลลูไลท์ และช่วยลดต้นขาได้มากขึ้น โดยเรามีสูตรขัดผิวจากกากกาแฟ

• สูตรกากกาแฟ + น้ำตาลทราย + น้ำมันมะพร้าว โดยใช้กากกาแฟ ½ ถ้วย และ น้ำตาล ½ ถ้วย มาผสมกับน้ำมันมะพร้าว ¼ ถ้วยค่ะ สูตรนี้ให้ใช้สครับประมาณ 5 – 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เห็นผลดีโดยไม่ทำลายความชุ่มชื้นในผิวเลย
• สูตรกากกาแฟ + น้ำผึ้ง + โยเกิร์ต โดยให้ใช้กากกาแฟ ½ ถ้วย ผสมกับน้ำผึ้ง ¼ ถ้วย ช้อนโต๊ะ และโยเกิร์ต 1 ถ้วย กวนเข้าด้วยกัน สครับประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก ตัวนี้จะช่วยสลายเซลลูไลท์และเพิ่มความนุ่มได้ด้วยค่ะ
• สูตรกากกาแฟ + กล้วย + น้ำมันมะกอก โดยนำกากกาแฟ ½ ถ้วย เกลือ 1 ถ้วย ผสมกับกล้วย 1 ลูกและน้ำมันมะกอก ½ ถ้วย มาสครับบริเวณที่กังวล สูตรนี้นอกจากช่วยเรื่องผิวเนียน ปราศจากเซลลูไลท์แล้วยังช่วยขัดขี้ไคลได้ดีเลยทีเดียว

7. การฉีดเมโส (Meso Fat)

เป็นการส่งผ่านตัวยาเข้าไปในชั้นผิวหนังและชั้นไขมัน เพื่อช่วยในการย่อยสลายไขมันส่วนเกินรวมถึงลดเซลลูไลท์ที่สะสมอยู่ในชั้นไขมัน โดยเข้าไปกระตุ้นให้ไขมันแตกตัว ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและระบบการทำงานของต่อมน้ำเหลือง เพิ่มประสิทธิภาพให้ร่างกายสามารถเผาผลาญ และขับไขมันส่วนเกินออกมาได้อย่างง่ายดาย ผ่านการขับถ่ายของร่างกายตามธรรมชาติ ทั้งยังช่วยยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึง จึงสามารถลดต้นขาได้ด้วยนั่นเอง นอกจากนี้ ยังสามารถทำได้ทั่วร่างกายทั้งคาง แก้ม ต้นแขน ต้นขา สะโพก พุง หน้าท้อง และไขมันที่น่องได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม วิธีลดเซลลูไลท์ ลดต้นขา เผยผิวเรียบเนียน เห็นผลลัพธ์ดีที่สุดที่เรานำมาฝากกันนั้น อาจจจะมีการเห็นผลลัพธืที่ช้าหรือเร็วนั้นแตกต่างกัน และวิธีที่สามารถลดเซลลูไลท์และต้นขาได้เร็วนั้น อาจมีข้อจำกัดเรื่องความเจ็บ การผ่าตัด หรือการพักฟื้นอยู่ วันนี้เราจึงมีอีกหนึ่งวิธีที่สามารถลดเซลลูไลท์ ลดต้นขา ที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย ไม่ต้องเจ็บตัวผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นอย่าง “CELLUSLIM TECH”

PROGRAM – CELLUSLIM TECH

นวัตกรรม 2IN1 ผสานคลื่นความร้อน Thermic IR ซึ่งเป็นระบบฟาร์อินฟราเรดส่งผลให้เกิดความร้อนลึก (Deep-thermal) กับ ระบบแรงดูดสูญญากาศ (Vacuum) ใช้เวลา 40 นาที ทำให้เกิดการหดตัว / คลายตัวกับผิวหนัง และ กล้ามเนื้อ เกิดการ Decompress คล้ายคลึงกับ Massage ซึ่งส่งผลให้เกิดการลดและลดเซลลูไลท์กระตุ้นระบบการขับเสียของเซลร่างกาย ลดการบวมน้ำ ปรับปรุงและฟื้นฟูระบบไหลเวียนของโลหิตและระบบน้ำเหลือง กระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อได้มีประสิทธิภาพ

CELLUSLIM TECH – ข้อดี และ สรรพคุณ

คลื่น Thermic IR (Far Infrared)

• ลดสัดส่วนพร้อมยกกระชับผิว
• ลด Cellulite ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
• กระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองและคลายตัวของกล้าม
• เพิ่มการไหลเวียนเลือด
• กระตุ้นการขับของเสีย

ระบบแรงดูดสูญญากาศ (Vacuum)

• ช่วยลด Cellulite
• ลดการหดรั้งของผังผืดและเนื้อเยื่อต่างๆ
• กล้ามเนื้อคลายตัว
• กระตุ้นการจัดเรียงตัวของคอลลาเจน และอิลาสติน
• ช่วยทำให้คลื่น Thermic IR ลงสู่ชั้นผิวได้ลึกมากขึ้น

หุ่นสวย สุขภาพดี เริ่มต้นที่ Slim Up Center พร้อมให้คำปรึกษาและบริการทั้ง 18 สาขาทั่วประเทศแล้ววันนี้

👉ปรึกษาลดน้ำหนัก  ไขมัน และ สัดส่วน ทักแชท

Contact Us

FB : http://m.me/SlimUp/

Line : https://bit.ly/Slimupcenter หรือ @Slimupcenter

IG : Instagram.com/Slimup_center

Website: www.Slimupcenter.co.th

Call Center : 02-620-0000